‘เจ๊ตั๊ก กรกนก’ จากคนเก็บขยะขาย สู่อาณาจักร 100 ล้าน

‘เจ๊ตั๊ก กรกนก’ จากคนเก็บขยะขาย สู่อาณาจักร 100 ล้าน



เรียกได้ว่าสู้ชีวิตจนรวย จากเด็กบ้านนนอก ที่คอยเก็บขยะขาย พ่อก็ล้มละลาย จึงย้ายมาสู้ชีวิตในเมืองหลวง 10 ปี สู่การสร้างอาณาจักรกว่า 100 ล้าน มีบ้านใหญ่ 4 หลัง แถมยังคอยช่วยคนลำบากอีกด้วย ถ้าจะให้พูดถึงคนดังที่เรื่องราวของเธอกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนในโลกออนไลน์ที่มาแรงอีกคนคงหนีไม่พ้น “เจ๊ตั๊ก-กรกนก สุวรรณบุตร” ซึ่งใช้ชื่อในเฟซบุ๊กว่า “กรกนก สุวรรณบุตร” โดยมีผู้ติดตามมากกว่า 3 แสนคน

พื้นฐานเดิมชีวิตของ เจ๊ตั๊ก นั้นมาจากเด็กบ้านนอกที่เติบโตในครอบครัวที่พ่อแม่เปิดร้านรับซื้อของเก่าและขยะไปขาย ทำให้ตอนเด็ก เจ๊ตั๊ก ต้องคลุกคลีกับกองขยะเต็มบ้าน แต่สุดท้ายธุรกิจของครอบครัวล้ม พ่อล้มละลาย ทำให้เธอต้องลำบาก โดย เจ้ตั๊ก เล่าให้ฟังว่า

“พื้นเพดั้งเดิมรากเง้าถิ่นกำเนิดเป็นคน อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นคนที่ขี้เหร่มาก หนูเป็นเด็กบ้านนอกต่างจังหวัดเข้ามากรุงเทพฯมาตามหาความฝัน ตอนแรกเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง แม่ก็พยายามส่งแต่เรียนไม่ได้จึงลาออกมาก่อน ที่บ้านก็ล้มละลายหลังจากที่คุณพ่อเสีย ธุรกิจที่บ้านไปต่อไม่ได้ ตอนนั้นที่บ้านทำรับซื้อของเก่า ซึ่งเป็นเจ้าใหญ่เจ้าเดียวในเกาะสมุย”

“พอพ่อเสีย ตอนที่เราอายุ 12 ปี ทางบ้านก็เริ่มมีหนี้สินรุมเร้า จนเราอายุ 19 ปี จึงเข้าไปเรียนที่กรุงเทพฯ คือแม่ส่งเรียนที่ดีมาก แต่หนูบอกกับตัวเองว่า เราพอละ ไม่เอาละ เราจะไม่เรียนที่แพงและไฮโซอีกแล้ว ฉันจะมาเรียนรามคำแหง ใช้เวลาในการเรียนจบ 2 ปี ครึ่ง ศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ เอกสื่อสารมวลชน จากนั้นเว้นอีกหนึ่งปีมาเรียนจบโทคณะรัฐประศาสนศาสตร์ เอกกฎหมายการเมือง อีกหนึ่งปีแปดเดือนจบ เราเป็นคนที่ทำอะไรทุกอย่างจริงจังอยู่แล้ว เป็นคนที่ตั้งเป้าหมายอะไรแล้วต้องทำให้ได้”

จากชีวิตติดลบในอดีตแต่ใจคนมันสู้ไม่ถอย เอาความยากลำบากเป็นแรงผลักดันในการสร้างความสำเร็จ จากเด็กที่เข้ามาสู้ชีวิตในกรุงเทพฯ กว่า 10 ปี วันนี้ เจ๊ตั๊ก กลายเป็นคนดังที่ปลุกพลังและสร้างแรงบันดาลใจจากความสำเร็จที่เธอสร้างขึ้น โดยเจ้าตัวได้โพสต์บอกว่า 10 ปีกับการมาสู้ชีวิตในเมืองหลวงเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง

“ทำตัวเองให้คู่ควรความสำเร็จ ปีหน้าย้ายเข้าบ้านใหม่หลังที่ 4 ในกรุงเทพฯ เด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่ดิ้นรนทำงานส่งตัวเองเรียนจนจบปริญญาโท ตอนอายุ 26 ใช้ชีวิตในเมืองหลวงมา 10 กว่าปี ไม่เคยท้อ แต่เคยน้อยใจในโชคชะตาตัวเองว่า ทำไมเราไม่มีพ่อเหมือนคนอื่น ?”

“เคยคิดว่า ถ้าพ่ออยู่ คงจะไม่ลำบากขนาดนี้ จะมีคนซัพพอตเรา ส่งเราเรียนโดยไม่ต้องทำงานเหนื่อย แต่นี้แหละ มันคือจุดเริ่มต้นของการสู้ชีวิตจริง ๆ ที่ต้องเลี้ยงดูครอบครัว เลี้ยงแม่ ยาย หลานอีก 2 คน เลี้ยงลูกน้องร้านเพชร ร้านทอง บริษัทอาหารเสริมอีก 20 กว่าชีวิต ที่เค้าเข้ามาพึ่งพาเรา มีรายได้ มีกิน มีใช้”

“ทุกวันนี้อยู่เพื่อคนอื่น ทำเพื่อทุกคน ถึงจุดอิ่มตัวแล้วจริง ๆ บ้านหลังนี้สร้างให้ครอบครัว ไม่มีสมบัติพ่อแม่ให้ชื่นชมเหมือนคนอื่น ๆ ขายบ้านเกิดทิ้งไปเพราะเป็นหนี้สินท่วมหัว เพื่อแม่จะได้พ้นจากการถูกฟ้องล้มละลาย ซึ่งในตอนนั้นเรายังเด็กมาก”

“แต่ก็ผ่านมาได้ทุกอย่าง ย้อนไปคิดแล้วน้ำตาจะไหลจริง ๆ ค่ะ เกิดเป็นคน อยากได้อยากมีต้องดิ้นรนเองจำไว้ กรกนก เงินสด ไม่กู้ใคร กลัวการเป็นหนี้ ขอบคุณความลำบากที่หล่อหลอมให้เราแข็งแกร่ง ขอบคุณแม่ที่คอยให้กำลังใจตั๊ก ขอบคุณคู่ชีวิตที่ดี”

เรียกได้ว่าเป็นสาวสวยตัวอย่างอีกหนึ่งคนที่สู้ชีวิตจนประสบความสำเร็จด้วยความสามารถของตัวเองจริง ๆ นะคะ

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก: กรกนก สุวรรณบุตร